
การออมเงินถ้าเราวางคอนเซ็ป มันก็ดูเป็นเรื่องที่ง่าย แต่ละขั้นตอนและวิธีการทำให้เป็นไปตามขั้นตอนของ 5 จิตวิทยาทางการเงิน นั้น ถ้าเราทำได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ซึ่งเราควรปรับและพัฒนา มันจะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น ซึ่ง 5 ขั้นตอนทางจิตวิทยาทางการเงิน ก็มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
- การใช้จ่ายด้วยเงินสด จะช่วยให้เราใช้จ่ายได้น้อยลง ในโลกที่ทุกเมืองกำลังเข้าสู่สังคมไร้เงินสด พักดูแล้วก้เป็นการใช้จ่ายที่สะดวกสบายขึ้น และ ไม่ต้องไปกังวลว่าเงินจะหายไปไหน แต่การที่เราไม่ได้จับเงินสดเลย มันเป็นเหมือนว่าเรา กำลังจะสร้างกระแส โดยที่เราไม่รู้ตัว และถ้าเราไม่ระมัดระวังให้ดี เราก็จะเริ่มมีนิสัยการใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย เพราะทุกการจ่ายเงินสด หรือการซื้อของใดๆ เราจะมีแนวโน้มในการที่จะประเมิณ ผลประโยชน์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้น และผลที่จะได้จากการ ซื้อของมาบริโภค นี้จะมีลักษณะน้อยลง เพราะทุกคนทั่วโลกส่วนใหญ่จะหันมาใช้บัตรเครดิตมากขึ้นและยังมีงานวิจัยมารองรับ ว่ายิ่งผู้ใช้จ่ายเห็นเงินไหลออกจากกระเป๋า ผู้จ่ายก็จะรู้สึกไม่ค่อยดี จะเกิดความเจ็บปวดในการใช้เงินสูง แล้วถ้าผู้จ่ายใช้เงินสด ก็จะมองเห็นว่าเงินที่เราใช้จ่าย นั้นมากจริงๆ อาจจะทำให้ผู้จ่ายฉุดคิดขึ้นมาได้ ว่าเราควรใช้เงินสดแทนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือ ช่องทางอื่น ที่จะทำให้เราสูญเสียเงิน
- เขียนรายการที่เราต้องการใช้จ่าย เรื่องนี้อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ มันก็จะมีความแตกต่างที่เกิดขึ้นอย่างมาก แต่ถ้าเราต้อการจะออมเงิน ข้อนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญและ มีงานวิจัยที่รองรับ ว่าคนที่เขียนเป้าหมายออกมา จะสามารถ บรรลุเป้าหมายได้ 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะมากกว่าคนที่ไม่มีการเขียนเป้าหมายอะไรอยู่ 40 เปอร์เซ็นต์
- ซื้อเพื่อตัวเอง เป็นการซื้อเพื่อตัวคุณเอง ไม่ต้องคิดที่จะไปโอ้อวดคนอื่น เพราะมันเป็นสิ่งที่ ทำแล้วไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร แต่สิ่งของที่เราสนใจจะซื้อก็ต้องให้มีความแน่ใจว่า มันจะเกิดประโยชน์กับเราจริงๆ
- โฟกัสสิ่งของที่จะซื้อให้แคบลง จากงานวิจัย คนที่มีจุดหมายในการออมเงินอย่างเดียว จะสามารถเก็บออม ได้มากกว่าคนที่ออมแล้วมีเป้าหมายหลายเป้าหมาย ซึ่งการมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน จะช่วยทำให้คุณโฟกัส ได้มากขึ้น และช่วยให้คุณเน้นที่การกระทำมากขึ้น ยิ่งถ้าเรามีตัวเลือกมากเท่าไหร่ บางทีก็อาจจะมีการตัดสินใจและการโฟกัส ที่ยากมากขึ้นและอาจจะทำให้เราสับสนและก็งง ในจุดโฟกัสของเราเอง ต่อมาก็จะทำให้เรา เกิดอารามณ์ ขี้เกียจ ไม่รับรู้และไม่อยากสนใจที่จะทำมันอีก ซึ่งการที่เรามีหลายเป้าหมายทางการเงิน ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ความสำคัญ คือคุณต้องกำหนดเป้าหมาย ทั้งหมดให้เกี่ยวข้องกัน และคุณก็จะโฟกัสมันได้ง่ายขึ้น แต่คนเราก็ไม่สามารถ ที่จะโฟกัสอะไรที่เยอะได้ภายในครั้งเดียว เพราะฉะนั้นแล้วเราก็ต้องทำออกมาให้เห็นภาพ และสามารถที่จะแตะต้องได้
- คุณออมเพื่ออะไร คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าคุณออมเงิน ไปเพื่ออะไร หลายคนจะมุ่งเน้นไปที่ วิธีการออมเงินมากกว่า จากงานวิจัยคนที่ให้ความสำคัญ ละมุ่งเน้นไปที่การออมมักจะสามารถออมเงินได้มากกว่าคนที่มุ่งเน้น ไปที่เรื่องของเทคนิค เพราะในหลายครั้งเรื่องของการเงิน มันไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลขเพียงอย่างเดียว และก็ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคนิค แต่เอาจริงๆ คือเราทุกคนรู้ว่าต้องออมเงิน ต้องลงทุนและต้องวางแผน ทุกคนรู้แต่มันก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ สาเหตุก็เกิดมาจากพฤติกรรมหรือวิธีคิด ในการใช้เงินของแต่ละคน เพราะทุกคนจะมีเหตุผลการใช้เงินที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ไม่ผิด ไม่มีถูก แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายทางการเงิน การตอบไห้ได้ว่าคุณกำลังทำอะไร ทำสิ่งนี้ไปทำไม เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณทำไปทำไม มีแค่เทคนิค บางครั้งก็ขี้เกียจ เหนื่อยไม่มีความอดทน เพราะการทำเรื่องเกี่ยวกับการเงินไม่ใช่แค่วันสองวันก็เห็นผล สิ่งสำคัญก็คือต้องมีวินัย และความอดทน คุณก็จะสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้
หาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บนี้ได้เลยครับ